เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนพฤษภาคม 2564 ล่าสุด
อัปเดต :
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีทั้งหมดประมาณ 13.8 ล้านรายจะได้สิทธิต่อเนื่องจนกว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในรอบใหม่ โดยคาดว่าจะเลื่อนให้ลงทะเบียนบัตรคนจนไปแบบไม่มีกำหนด สำหรับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนพฤษภาคมนี้จะมี 5 สิทธิพิเศษดังนี้
- วงเงินรูดซื้อสินค้า
- ค่าเดินทาง
- เงินคืนค่าไฟฟ้า (ต้องลงทะเบียน)
- เงินคืนค่าน้ำประปา (ต้องลงทะเบียน)
- เงินผู้พิการ (ต้องลงทะเบียน)
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน
เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พฤษภาคม 2564
1. วงเงินรูดซื้อสินค้า
รัฐบาลจะแบ่งกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกตามกลุ่มรายได้ (ตามเกณฑ์รายได้รวมทั้งปี)
- ผู้ที่มีรายได้ไม่เกินปีละ 30,000 บาท
- ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
สิทธิ์วงเงินรูดซื้อสินค้า
วงเงินรูดซื้อสินค้าไม่สามารถถอน หรือกด ATM เป็นเงินสดออกมาได้
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มมีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/ปี
- ได้รับวงเงินรูดซื้อสินค้า 300 บาท/เดือน
- เงินเข้าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- วันที่ 1 พฤษภาคม 2564
- สามารถซื้อสินค้าได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ร้านค้าที่มีเคลื่อง EDC และ ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต
ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์รายได้ 3 หมื่น ถึง 1 แสนบาท/ปี
- ได้รับวงเงินซื้อสินค้า 200 บาท/เดือน
- เงินเข้าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- วันที่ 1 พฤษภาคม 2564
- สามารถซื้อสินค้าได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ร้านค้าที่มีเคลื่อง EDC และ ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต
2. ค่าเดินทาง
สำหรับค่าเดินทางท่านจะได้เป็นรายเดือนโดยอยู่ในหมวดค่าเดินทาง หรือค่าโดยสารสาธารณะ
ค่ารถไฟ
ส่วนลดค่ารถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน เมื่อท่านต้องการใช้สิทธิ์นี้ต้องนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประจำตัวประชาชนของท่านแสดงต่อเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถไฟก่อนการซื้อตั๋ว
- วงเงินเข้า วันที่ 1 พฤษภาคม 2564
- วงเงินจำนวน 500 บาท
- ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
*จำเป็นต้องแสดงบัตรประชาชน กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ค่ารถเมย์ รถไฟฟ้า
เมื่อจะใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นส่วนลดค่าโดยสารท่านจำเป็นต้องต้องชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket โดยจะสามารถใช้สิทธินี้ได้ โดยรัฐบาลให้วงเงินใช้จ่ายต่อเดือน 500 บาท
- วงเงินเข้า 1 พ.ค. 2564
- ไม่เกิน 500 บาท
- กดเงินสด หรือ กด ATM ไม่ได้
จังหวัดที่ใช้สิทธิส่วนลดค่ารถไฟฟ้าได้
- กรุงเทพมหานคร
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- พระนครศรีอยุธยา
- สมุทรปราการ
- สมุทรสาคร
- นครปฐม
ค่าโดยสารรถ บขส.
ท่านสามารถใช้สิทธิค่าโดยสานกับรถ บขส. ไม่เกินเดือนละ 500 บาท โดยก่อนที่ท่านจะชำระเงินท่านต้องแสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนด้วย
- ส่วนลดค่าโดยสารจะเข้าวันที่ 1 พฤษภาคม 64
- กดเป็นเงินสดไม่ได้
- จำนวน 500 บาท
3. เงินคืนไฟฟ้า 230 บาท
ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์เงินคืนค่าไฟฟ้า (ส่วนลดค่าไฟฟ้า) นี้จะต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงไทย และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเท่านั้น (เฉพาะสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)
สรุปรายละเอียดเงินคืนค่าไฟฟ้าของผู้ถือบัตรคนจน
- สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาท/เดือน
- จ่ายบิลค่าไฟฟ้าของเดือนปัจจุบันก่อน
- จะได้รับเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วน e-Money
- สามารถกดเป็นเงินสด ATM ออกมาได้
- จะได้รับเงินคืนใน ทุก ๆ วันที่ 18 ของเดือนถัดไป
- ต้องใช้ไฟฟ้าระหว่าง ต.ค. 63 ถึง ก.ย. 64
- 1 สิทธิ์/ครัวเรือน / 1 หม้อแปลงไฟฟ้า
ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดนี้ได้ผ่านเว็บไซต์
- ลงทะเบียนส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ. / PEA)
- วิธีลงทะเบียนส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงไทย (กฟน. / MEA)
ตัวอย่างผู้ได้รับสิทธิเงินคืนค่าไฟฟ้า
เดือนนี้นาย ก จ่ายค่าไฟฟ้าไป 200 บาท แบบนี้ได้รับส่วนลด ในเดือนหน้าประมาณวันที่ 18 จะมียอดเงินโอนเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) 200 บาท (สามารถกดรับเงินสดได้)
ตัวอย่างผู้ที่ไม่ได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า
เดือนนี้นาย ข จ่ายค่าไฟฟ้าไป 300 บาท แบบนี้จะไม่ได้รับสว่นลดไดๆทั้งสิ้น
4. ส่วนลดค่าน้ำประปา 100 บาท
ครอบครัวที่มีสามาชิกถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับส่วนลดค่าน้ำประปาได้ไม่เกิน 100 บาท โดยในเดือนปัจจุบันท่านจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าไปก่อน และจะได้รับเงินคืนในรอบเดือนถัดไปในวันที่ 18 (เงินคืนจะมาอยู่ในส่วนของ e-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถกดเงินสด ATM ที่ตู้กรุงไทยออกมาได้)
เกณฑ์ผู้ขอรับสิทธิ์ส่วนลดค่าน้ำประปา
- เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- 1 สิทธิ์ / 1 ครอบครัว / 1 มิเตอร์น้ำประปา
- ต้องใช้สิทธิ์ในเดือน ต.ค. 63 ถึง ก.ย. 64
- ต้องใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท
- ต้องเป็นผู้ใช้น้ำประปาของการประปานครหลวง และ การประปาส่วนภูมิภาค
วิธีลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิส่วนลดค่าน้ำประปา
ท่านสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้โดยเตรียมข้อมูลบิลค่าน้ำประปา , เลขบัตรประจำตัวประชาชน และ เลขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์
- ลงทะเบียนรับส่วนลดค่าน้ำประปาของผู้ใช้น้ำการประปานครหลวง
- วิธีลงทะเบียนรับเงินคืนค่าน้ำประปาของผู้ใช้การประปาส่วนภูมิภาค
5. เงินเพิ่มส่วนของผู้พิการ 200 บาท
กลุ่มที่ได้รับเงินในส่วน 200 บาท คือผู้ที่ลงทะเบียนรับเบี้ยควาวพิการที่ อบต. เขต หรือ เทศบาลมาแล้วและอยู่ในสถานะผู้ได้รับสิทธิเบี้ยความพิการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
สถานะที่ลงทะเบียนรับเบี้ยความพิการ
ผู้พิการสามารถติดต่อรับสิทธิสวัสดิการความพิการได้ที่ พมจ. ทั่วประเทศ หรือ พมจ. ใกล้บ้านท่านได้ (ส่วนใหญ่ จะอยู่ที่เดียวกับ ศาลากลางประจำจังหวัด)
สิทธิสวัสดิการผู้พิการ
- สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- สินเชื่อกู้ยืมเพื่อคนพิการ ไม่เกิน 10,000 บาท
- สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสำหรับผู้พิการ ไม่เกิน 120,000 บาท
- เบี้ยความพิการ 800 – 1,000 บาท
- ค่าซ่อมบ้าน ไม่เกิน 40,000 บาท
- สิทธิ์สวัสดิการสังคม ไม่เกิน 3,000 บาท
- สิทธิผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- เงินสงเคราะห์ผู้พิการ ไม่เกิน 9,000 บาท
คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เปิดคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในรอบล่าสุด
1. มีสัญชาติไทย
จะต้องมีสัญชาติไทย โดยยึดบัตรประจำตัวประชาชนเป็นสำคัญ
2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
นับอายุถึงวันที่ ครม. ประกาศเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. ว่างงาน หรือ มีรายได้ที่เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมาไม่เกิน 100,000 บาท
ท่านจะต้องเป็นผู้ว่างงาน หรือ มีรายได้เกิน 100,000 บาทในปีที่ผ่านมา
4. ไม่มีทรัพย์สินเกิน 100,000 บาทในปีที่ผ่านมา
ไม่มี หรือ มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตร ตราสารหนี้ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาไดเวลาหนึ่ง
5. ไม่เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินเกินเกณฑ์ที่กำหนด
ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฏหมาย หรือ ถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
5.1 ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
(1) กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
- บ้านหรือทางเฮ้าส์ต้องมีพืทท้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
(2) กรณีเป็นผู้ที่อยู่อาศัย และใช้ประโชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโชยน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
5.2 ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
(1) ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
(2) ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพืท้นที่ไม่เกิน 10 ไร่