วิธีเช็คเงินค่าไฟฟ้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐล่าสุด กุมภาพันธ์ 2565 / 2022
อัปเดต :
มาแนะนำวิธีเช็คเงินค่าไฟฟ้าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนล่าสุดครับ โดยท่านที่จะได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงเรียบร้อยแล้วเท่านั้นครับ
แนะนำให้ท่านใช้วิธีเช็คเงินค่าไฟฟ้าด้วยตัวเองดังนี้
- ท่านได้ชำระเงินค่าไฟฟ้าเดือนมกราคม 2565 ก่อนวันที่ 31 มกราคม 2565 หรือไม่
- ท่านใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยหรือไม่
- ท่านใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาท หรือไม่
- ท่านได้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิเงินคืนค่าไฟฟ้าแล้วหรือไม่
วิธีเช็คเงินค่าไฟฟ้าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนล่าสุด กุมภาพันธ์ 2565
- โทรศัพท์ 02 – 109 2345
- ฟังเสียงตอบรับจากระบบ
- กดเลข 3 เพื่อเช็คยอดเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กดเลข 1 เพื่อตรวจสอบยอดเงินใน e-Money
- กดเลขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 16 หลัก
- กดรหัส atm 6 หลัก
- ฟังเสียงระบบแจ้งยอดวงเงินที่จะได้รับ
จะต้องเป็นผู้ที่ใช้ไฟฟ้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ไม่เกิน 315 บาท และจะได้รับเงินคืนตามยอดเงินจริงที่เสียค่าไฟฟ้าไป
ไม่ได้เงินคืนค่าไฟฟ้า 315 บาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องทำอย่างไร?
เมื่อท่านโทรเช็คเงินคืนค่าไฟฟ้าหรือเช็คยอดเงินแล้วไม่มียอดเงินคืนค่าไฟฟ้า ให้ท่านตรวจสอบตัวเองดังต่อไปนี้ครับ
1 ในเดือนที่ผ่านมาท่านชำระเงินก่อนกำหนดหรือไม่
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากท่านจำเป็นต้องชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น
ท่านได้ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนมกราคม และด้านล่างของใบแจ้งค่าไฟฟ้าระบุว่า วันครบกำหนดชำระเงิน (Due Date) 25 ม.ค. 2565 หมายความว่า ท่านจะต้องชำระค่าไฟฟ้าภายในวันที่ 25 ม.ค. 2565
2 ในเดือนที่ผ่านมาท่านใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยหรือไม่?
ตามที่รัฐบาลมีประกาศช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยโดยให้ความช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้
ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วยในเดือนได จะไม่ได้รับสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนนั้น
ยกตัวอย่าง
ใช้ไฟฟ้า 45 หน่วย ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าจะระบุยอดเงินที่ต้องชำระคือ 0.00 บาท แบบนี้หมายความว่า ท่านจะไม่ได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า เพราะท่านใช้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรีอยู่แล้ว
3 ในเดือนที่ผ่านมาท่านใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาท หรือไม่?
หลายๆท่านสงสัยว่าทำไหมไม่ได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า 315 บาท โดยท่านก็ได้เสียเงินค่าไฟฟ้าไปแล้ว ขออธิบายดังนี้ครับ
ผู้ที่จะได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า 315 บาท จำเป็นต้องเป็นครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาท
ยกตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่างที่ 1 ท่านได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้า 922.53 บาท ซึ่งเกินเงื่อนไขที่จะได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า ดังนั้นท่านจะไม่ได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า
ตัวอย่างที่ 2 ท่านได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้า 280.00 บาท แบบนี้จะเข้าเงื่อนไขการได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า ดังนั้นท่านจะได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้าในวันที่ 18 ของเดือนถัดไป (แต่ต้องชำระเงินตามกำหนดระยะเวลาด้วย)
4 ท่านได้ลงทะเบียนรับสิทธิเงินคืนค่าไฟฟ้า สูงสุด 315 บาทหรือยัง
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำเป็นต้องลงทะเบียนรับสิทธิในการรับเงินคืนค่าไฟฟ้าก่อน โดยสามารถศึกษาข้อมูลจากลิ้งด้านล่างครับ
จะได้เงินคืนค่าไฟฟ้าเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตอนไหน?
การให้สิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขยายระยะเวลาตามมาตรการล่าสุด ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือน ตุลาคม 2564 – กันยายน 2565
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลงทะเบีนขอรับสิทธิค่าไฟฟ้า (เฉพาะผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียน)
- การไฟฟ้าแจ้งค่าไฟฟ้า และออกใบแจ้งค่าไฟฟ้า
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดในเดือนนั้นๆ
- การไฟฟ้าส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง (ตัดสรุปวันสุดท้ายของเดือนนั้นๆ และสรุปข้อมูลให้กรมบัญชีกลางภายในอาทิตย์แรกของเดือนถัดไป)
- กรมบัญชีกลางตรวจสอบและโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 18 ของทุกๆเดือน (จะได้เงินคืนก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขเท่านั้น)
เงินคืนค่าไฟฟ้าจะคือเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วน e-Money สามารถกดเป็นเงินสดที่เครื่อง atm ธนาคารกรุงไทย
วิธีเช็คเงินค่าไฟฟ้ากลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำเป็นต้องเข้าเงื่อนไขด้วย
เงื่อนไขการใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเป็นผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิ 1 สิทธิต่อครัวเรือนต่อบิลเดือน และต่อหนึ่งหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
- ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้าประจำเดือน ตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้าแต่ไม่เกิน 315.-บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่อครัวเรือนต่อบิลเดือน กรณีที่ค่าไฟฟ้าเกิน 315.-บาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะไม่ได้สิทธิจากมาตรการนี้
- ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชำระเงินค่าไฟฟ้าเต็มจำนวนตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้า และกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ต่อไป
- ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วยในเดือนใด จะไม่ได้รับสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนนั้น
- ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องการใช้สิทธิในการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ต้องลงทะเบียนผ่านช่องทางที่ กฟภ. กำหนด และให้ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน
- เริ่มตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือน ต.ค. 2564 – ก.ย. 2565
หากสงสัยหรือมีวิธีเช็คเงินค่าไฟฟ้าวิธีอื่น โปรดลองโทรสอบถามจากกรมบัญชีกลาง และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อนนะครับ
- กรมบัญชีกลาง โทร 02 270 6400
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร 02 109 2345
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร 1129
- การไฟฟ้านครหลวง โทร 1130
อ้างอิง เว็บไซต์ลงทะเบียนรับเงินคืนค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ เว็บไซต์ลงทะเบียนรับเงินคืนค่าไฟฟ้านครหลวง