เครดิตบูโร คือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ซึ่งมีหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภท ที่สถาบันการเงิน และ บริษัทสมาชิก ส่งมาให้
บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จากัด นั้นจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตที่ได้รับอนุญาตมีเพียงแห่งเดียว คือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จากัด (National Credit Bureau Co.,Ltd. NCB)
เครดิตบูโร มีหน้าที่ ประมวลผลข้อมูลจากสมาชิก หรือ จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ (ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด) และ มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูลให้แก่สมาชิก (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายบทความ)
สถาบันการเงิน และ บริษัทสมาชิกเครดิตบูโร มีหน้าที่นำส่งข้อมูลสินเชื่อแต่ละรายให้เครดิตบูโรเป็นรายเดือน ไปจนกว่าสินเชื่อนั้นจะได้รับการชำระเสร็จสิ้น (ตามหลักเกณฑ์ ที่คะณะกรรมการประกาศกำหนด) และ ใช้ข้อมูลจากเครดิตบูโรเพื่อนำมาพิจารณาปล่อยสินเชื่อบุคคล / นิติบุคคล เช่น ข้อมูลประวัติการขอสินเชื่อ ประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อ สถานะบัญชี เป็นต้น (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายบทความ)
วิธีการอ่านคะแนนเครติดบูโร รวมถึงตัวอย่างเหตุผลคะแนนเครดิตบูโรที่ท่านได้ พร้อมยกตัวอย่างและเหตุผลให้ทราบบางรหัส
-> วิธีเช็คบูโรผ่านแอป KPP Mobile
-> วิธีตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรผ่านแอป NEXT
ผู้ที่ขอเช็คเครดิตบูโรจะได้รับรายงานโดยในนั้นจะระบุคะแนนเครดิตบูโรให้เราทราบ โดยเรียกจากเกรด HH – AA ซึ่ง หากได้ HH หมายถึง เครดิตไม่ดี หากได้ AA หมายถึงเครดิตดี ตามข้อมูลในตารางครับ
ช่วงคะแนน (Score Range) | ระดับคะแนนเครดิต (Risk Grade) | เฉดสีเครดิต |
---|---|---|
753 – 900 | AA | สีน้ำเงิน |
725 – 752 | BB | สีฟ้า |
699 – 724 | CC | สีเขียวเข้ม |
681 – 698 | DD | สีเขียว |
666 – 680 | EE | สีเขียวอ่อน |
646 – 665 | FF | สีเหลือง |
616 – 645 | GG | สีส้ม |
300 – 615 | HH | สีแดง |
ในรายงานคะแนนบูโรของท่าน จะมีเครื่องหมาย * |
ตัวอย่างความหมาย รหัส เหตุผลของข้อมูลเครดิตบูโร
รหัส 014 คือ มีภาระหนี้รวมคงค้างในระดับที่สูง หมายถึง มีสินเชื่ออยู่หลายบัญชีหรือไม่ แล้วหนี้ที่มีอยู่นั้น มีปริมาณมากน้อยเพียงใด หากมีหนี้เยอะก็จะทำให้ได้คะแนนเครดิตน้อย
รหัส 019 คือ มีข้อมูลจำกัดในรายละเอียดของประวัติเงินกู้ หมายถึง หากเป็นหนี้มาไม่นานนักอาจจะไม่สะท้อนพฤติกรรมในการชำระหนี้ได้มากนัก คะแนนก็อาจจะไม่ดี
รหัส 023 คือ มีข้อมูลแสดงการค้างชำระ หมายถึง อาจจะเคยค้างชำระหนี้มา คะแนนก็อาจจะน้อย
รหัส 027 คือ มีจำนวนบัตรเครดิตที่เพิ่มเปิดใช้น้อย หมายถึง กลุ่มที่มีจำนวนบัตรเครดิตหลายใบแต่ได้มีการใช้งานจริงซึ่งจะถูกมองว่าทำให้มีโอกาสในการเป็นหนี้ในอนาคตสูงคะแนนเครดิตก็จะออกมาไม่ดี
รหัส 029 คือ มีจำนวนการสืบค้นข้อมูลเครดิตมาก เป็นการสะท้อนว่ามีการขอกู้กับสถาบันการเงินหลายแห่ง ทำให้มีการสืบค้นประวัติเครดิตหลายครั้ง ก็จะส่งผลกระทบทำให้ได้คะแนนเครดิตไม่ดี
ติดบูโร เป็นภาษาเรียก (ไม่เป็นทางการ) ซึ่งผู้ขอสินเชื่อจะชอบพูดว่า ติดบูโร ในกรณีที่มีประวัติการชำระเงินไม่ดี หรือ ประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อไม่ดี แบบนี้จะถูก เรียกว่า ติดบูโร
ติดบูโร คือ มีประวัติการชำระเงินหรือประวัติการชำระสินเชื่อที่ปรากฎในรายงานผลเครดิตบูโร
เช่น ติดบูโร รหัส 029 คือ มีการถูกสืบค้นข้อมูลเครดิตหลายครั้ง เป็นต้น
ย้ำอีกครั้ง คำว่า ติดบูโร เป็นภาษาพูดในกลุ่มผู้ขอสินเชื่อเท่านั้น (ไม่มีความหมายในทางราชการใดๆ)
คำว่าติดแบล็คลิสต์ คืออะไร? ก็เป็นภาษาพูดคุยกันในกลุ่มผู้ขอสินเชื่อแต่พักหลังมานี้จะไม่ค่อยมีคนพูดถึงมากนักเพราะให้คำวามสำคัญไปกับเครดิตบูโรแทน
ติดแบล็คลิสต์ blacklist คือ อยู่ในกลุ่มผู้ชำระสินเชื่อที่ไม่ดี โดยอาจจะเคยถูกดำเนินคดี ถูกยึดบ้าน ถูกยึดรถ หรืออาจจะเรียกว่า บัญชีดำ บัญชีถัง
เช่น เคยยืมเงินด่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์โซค์ กับบริษัท A แต่ท่านค้างชำระ และถูกบริษัท A ยึดรถ บริษัท A จะขึ้นบัญชีดำให้ท่าน หรือ เมื่อท่านมาขอสินเชื่อกับบริษัท A อีกครั้ง จะไม่สามารถยืมเงินได้เพราะติดแบล็คลิสต์กับบริษัท A แล้ว
ย้ำอีกครั้ง คำว่า ติดแบล็คลิสต์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเครดิตบูโร
แม้ว่าความหมายของติดบูโร กับ ติดแบล็คลิสต์ จะไม่เหมือนกัน แต่วิธีแก้ไขเมื่อติดบูโรและติดแบล็คสิสต์ จะเหมือนกันโดยข้อมูลในเครดิตบูโรจะเก็บไว้ 3 ปี หรือ 36 เดือน นับจากวันที่ท่านชำระสินเชื่องวดสุดท้ายแล้วเสร็จ
* กรณีที่ถูกฟ้อง ท่านจะกลายเป็นผู้ติดแบล็คลิสต์ ที่ไม่สามารถแก้ไขสถานะนี้ได้อีก (ถูกบริษัทไหนฟ้อง ก็จะติดแบล็คลิสต์ บริษัทนั้น)